Friday, 21 August 2009

...ตอบ สหายเดียว นะครับ. (Our Conversation)

สวัสดี คุณผู้อ่าน ทุกๆท่านนะครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับในวันนี้??

“หวังว่าทุกๆท่านคงจะเอ็นจอยไปกับสภาวะต่างๆที่เกิดขึ้นรอบๆกายนะครับ.”

ยิ้มสักนิด ยิ้มเสียหน่อย จักผ่อนคลาย.

:D

ในกล่องใส่ข้อความแห่งความว่างนี้ , เราได้นำสิ่งที่สหายรักต่างรุ่นของเราได้ สัมผัส และ รู้สึกอะไรบางอย่างกับ “มัน” มาให้ทุกๆท่านได้สัมผัสร่วมกันนะครับ.

เอ... ว่าแต่ว่า... “มัน” เกี่ยวกับอะไรน้า??

เอาเป็นว่า , เราลองไป สัมผัส และ รู้สึก ร่วมกันเลยดีกว่านะครับ.

โดยเฉพาะใครหลายๆคนที่ได้พบเจอและรู้จักกับไอ้สิ่งที่เรียกว่า

“ความทุกข์”

เรียบร้อยแล้ว(??) , สัมผัส และ รู้สึก อย่างไรกับ “เจ้าความทุกข์” ก็แชร์ความรู้สึกร่วมกันได้เลยนะครับผม.

ขอธรรมคุ้มครองครับ.

นัทสุง.

hi!! Everyone!!

how are you today??

take it easy na’

let’s smile!! Let’s smile!! and let’s smile!!

:D

in this blog , i’ve posted my fellow’s…

“STRESSFUL”

his name is “deaw” piyakul phusri , he’s my lovely fellow :D

anyway , have you ever seen your “stressful” ??

let’s watch and feel them in your mind and we’ll find out something.

what’s is it??

ummmm… I will tell you later , goodluck!! :D

karmanatta.

Ps. If you feel “THEM” , you can share your feeling na’

:D


Piyakun Phusri wrote:

พี่สุง...

ระหว่าง การยอมรับว่าโลกนี้เป็นทุกข์ การเกิดเป็นทุกข์ การมีชีวิตอยู่เป็นทุกข์ ...


กับ...

การแสวงหาความสุขมาทับถมความทุกข์ให้แนบเนียนที่สุด (แต่ไม่ได้ลืมนะครับว่าทุกข์มันก็อยู่รอบตัว)

เราควรใช้ชีวิตอย่างไรดีครับพี่...




...ตอบ สหายเดียว นะครับ.

...คนเรามักเกลียดทุกข์ รักสุข แล้วมันเหมือนที่เดียวถามว่า เราควรอยู่แบบไหนดี?? ระหว่าง เห็นทุกข์แล้วแต่เราจะอยู่กับมันอย่างไร?? หาสุขมาเติมมาทับถมทุกข์ที่อยู่รอบตัวเหรอ??

...คำตอบ คือ "รู้" ลงไปในกายในใจ ไม่ว่าสภาวะใดเกิด ขอเพียง "รู้" ตามรู้ตามดูไป ว่ากายและใจที่ว่ามันสุข มันสุขจริงไหม?? กายและใจที่ว่ามันทุกข์ มันคงอยู่ได้ไหม?? แล้วเราจะพบ "ความเป็นจริง" ว่า...

"ไม่ว่าสุข หรือ ทุกข์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเพียงชั่วคราว!!"

...ลมหายใจเข้าแล้วต้องออก ไม่หายใจเข้าได้ไหม?? ก็ตาย... หายใจออกอย่างเดียว ...ทุกข์ไหม?? พิจารณาเห็นแล้วรู้สึกอย่างไร ...ร่างกายที่ว่าของเรา ของเรานี้ มันบังคับได้ไหม มันยึดถือครอบครองได้จริงไหม?? เพราะมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ถูกบีบคั้นให้แปรเปลี่ยนไปตามธรรมดาของธรรมชาติ ไม่ใช่เราไม่ใช่ของๆเรา.

...แล้วใจที่ว่า ตัวเรา ของเราล่ะ??

...ใจที่สุข ที่ทุกข์ ที่หลง ที่ฟุ้งซ่าน ที่โกรธ ที่เกลียด ที่อิจฉา ...เราบังคับมันได้มั้ย?? แกอย่าทุกข์นะ ต้องมีความสุขอย่างเดียว มันบังคับได้ไหม?? ...มันบังคับไม่ได้!!

...อันสิ่งใดบังคับไม่ได้ ขึ้นชื่อว่า ไม่ใช่ของเรา!! จริงมั้ย??

...แล้วสภาวะในกายในใจที่มันเกิด มันคงอยู่ได้ตลอดมั้ย?? ...ก็ไม่ , เดี๋ยวมันก็สุข เดี๋ยวมันก็ทุกข์ เมื่อกี้ยังดีใจอยู่ เพื่อนมันกวนตีนหน่อยอ้าวกลายเป็นโกรธ?? มีแล้วก็หายไป เมื่อกี้ไม่มี มีแล้วก็หายไป นี่...มันเปลี่ยนไปเรื่อย มันไม่คงที่ มันถูกบีบคั้น และ มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราบังคับมันไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เรา!!

...แล้วเราควรทำอย่างไรดีล่ะ??

..."รู้" ลงไปในกายในใจ ว่าสภาวะทุกอย่างที่เกิดในกายในใจ มันไม่เที่ยง เมื่อกี้มี แล้วก็หายไป ไม่มีแล้วก็มีขึ้นมา มันแปรเปลี่ยนไปตลอดเวลา , แล้วเราก็บังคับมันไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา.

...ดูไปเรื่อยๆจนใจมันเริ่มยอมรับสภาพ "ตามความเป็นจริง"

...เมื่อใจเราเริ่มเห็นความจริงแล้ว เราจะอยู่กับสุขและทุกข์ด้วยความเป็นกลาง.

...ใจเราจะเบาโปร่งโล่งสบายกว่าที่เคย

...เพราะเราเริ่มเห็น "ความจริง"

...ขอเพียง "รู้" ตามรู้ตามดูไปในทุกขณะที่จะสามารถดูและรู้ได้ นั่นล่ะ นาทีทอง!!

...มันไม่มีแล้วก็มี มันมีแล้วก็หายไป เห็นจิตใจมันเกิดดับไปเรื่อยๆ สนุกๆ เพลินๆ :D

...ใจเรายังบังคับไม่ได้เลยนะ ทุกอย่างมัน "สมมุติ" ทั้งนั้น.

...ดังนั้น , "รู้" สุข แล ทุกข์ ไป "ตามความเป็นจริง"

...ดังนี้แล. ไว้ลงลึกกันได้ครับ (อาจจะงงๆหน่อยนะ อ่านเล่นๆก่อนนะกัน :D)

นัสสุง.

ปล. ไม่ต้องเชื่อเรานะ , จงลองสัมผัสและพิสูจน์ดูก่อนว่าจริงไหม??



...เสียงเล็กเล็ก เสียงจากเธอ พริ้วลอยผ่าน

...ความคิดอ่าน พลันมุ่งไป ถึงเธอศรี

...ความคิดอ่าน ส่งผ่านไป ในกวี

...ขอเธอนี้ ได้สัมผัส ผ่านดวงใจ

...เสียงแห่งเธอ เสียงแห่งธรรม พลันคอยบอก

...มิลวงหลอก บอกความนัย ให้สับสน

...เสียงแห่งเธอ เสียงเล็กเล็ก คอยปลุกตน

...มิเวียนวน จนหลงห่าง พลันชิดกัน

...เพลานี้ เรามีกัน แลกันอยู่

...เราสองรู้ ความในใจ มิห่างหาย

...เราสองนั้น เคียงกันอยู่ กายแนบกาย

...ชีวาวาย มลายสิ้น ยังคู่เคียง

...แสงแห่งธรรม แสงความจริง จักนำสู่

...เราสองอยู่ แลมุ่งไป สู่เมืองศรี

...วันเวลา คืนแลวัน แลผ่านปี

...เราสองศรี จักมุ่งสู่ แสงธรรมเอย.

“เธอ แล ฉัน , จักหายไป.”




-กรรมานัตตา.-




(เดียว , ปิยกุล ภูศรี . ภาพถ่ายบันทึกไว้ในวันรับปริญญา.)
"deaw" is in the middle!!

1 comment:

  1. Piyakun Phusri(Busy)wrote:

    ขอบคุณมากครับพี่สุง ขอบคุณสำหรับวิทยาทานครั้งนี้ครับ /\

    เข้าใจแล้วครับว่าสุดท้ายแล้ว อารมณ์ ก็เป็นของไม่เที่ยง

    ผมเป็นคนเสพติด อารมณ์ จนชักจะเป็นทาสมันครับ

    ขอบคุณที่เตือนสติ ไว้ผมจะไปชิมดูนะครับ ^^

    ReplyDelete